01 Jul
01Jul

Minions 2: The Rise of Gru เหมือนเดิม...มินเนียนส์ยังบันเทิงเหมือนเดิม


ประเภท: แอนิเมชั่น / ตลก / ผจญภัย 

ผู้กำกับ: ไคล์ บัลดา, แบรด อเบลสัน, โจนาธาน เดล วัล 

ให้เสียงพากย์โดย: สตีฟ คาร์เรลล์, ทาราจิ พี. เฮนสัน, มิเชล โหย่ว 

ความยาว: 87 นาที 

กำหนดฉายในไทย: 29 มิถุนายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)


"Minions 2: The Rise of Gru" ที่แน่นอนว่ากลับมาคราวนี้ พวกเขายังคงฉายเสน่ห์อันเหลือล้นออกมาได้อีกเช่นเคย แม้ว่าจะสัมผัสได้ถึงความตันของไอเดียที่พามาในทิศทางนี้บ้างก็ตาม แต่อย่างน้อย ๆ เหล่าชาวมินเนียนส์ก็ยังสร้างความบันเทิงเริงใจได้เหมือนเคย

Minions 2: The Rise of Gru เล่าเรื่องราวหลังจากที่พวกมินเนี่ยนออกตามหาบรรดาวายร้ายสุดโฉดมาทุกยุคทุกสมัย ปั่นป่วนจนมาเจอกับหนูน้อย กรู เด็กหนุ่มน้อยที่วาดฝันจะกลายเป็นวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วยบรรดาลูกสมุนตัวสีเหลืองที่เหมือนจะช่วย แต่ดันป่วนมากกว่า คราวนี้กรูได้เดินทางไปยังสถานที่เป็นเหมือนสภาของบรรดาวายร้ายที่ชื่อ Vicious 6 เพื่อต้องการเป็นวายร้ายเต็มตัว แต่ด้วยความที่เขายังเป็นเด็ก ทำให้บรรดาวายร้ายไม่ยอมรับ

แน่นอนว่าความฝันของกรูแน่วแน่เกินสิ่งใด เขาเลยตัดสินใจพิสูจน์ตัวเองด้วยการขโมยอัญมณีล้ำค่าของวายร้ายตัวแม่ เบลล์ บัทท่อม ทำให้วายร้ายทั้งหมดแห่ง Vicious 6 ออกตามล่าเขาในทันที ไม่ว่าจะเป็นวายร้ายจอมพลัง, แม่ชีสายบู๊ผู้มีกระบองสองท่อนเป็นอาวุธ หรือจะเป็นมนุษย์ที่มีแขนเป็นก้ามปู แต่กรูก็ไม่น้อยหน้า เพราะเขามีบรรดาเหล่ามินเนียนและจักรยานติดไอพ่นคู่ใจ กรูตัดสินใจใช้แผนแยกย้ายหลอกล่อ โดยให้หนึ่งในมินเนียนที่ชื่อ อ็อตโต้ เอาอัญมณีหนีแยกไปอีกทาง ส่วนเขาจะเป็นคนล่อพวกวายร้ายเอง

ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปตามแผน และกรูกำลังจะได้ประกาศศักดาเป็นวายร้ายหน้าใหม่ที่ร้ายกาจที่สุด แต่เมื่อเจ้าอ็อตโต้เอาอัญมณีออกมาให้ มันกลับกลายเป็นก้อนหินเด็กเล่น ซึ่งเจ้าอ็อตโต้ก็ได้เล่าถึงที่มาที่ไปว่าระหว่างหลบหนี มันก็ดันหลงไปอยู่ในบ้านของเด็กคนหนึ่งที่กำลังจัดงานวันเกิด แล้วบังเอิญไปเห็นเจ้าก้อนหินเด็กเล่นชิ้นนี้เข้า มันตกหลุมรักในทันที ก่อนจะตัดสินใจแลกอัญมณีกับก้อนหินเด็กเล่น สำหรับกรูแล้วนี่ก็เป็นเหมือนการเอาอนาคตของเขาไปโยนทิ้งเลยทีเดียว เรื่องราวความปั่นป่วนจะเป็นอย่างไร ต้องรอติดตามกันต่อไป

มาในภาคนี้ได้ผู้กำกับมาเป็นแพ็คถึง 3 คนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น "ไคล์ บัลดา" (จาก Minions ภาคที่แล้ว), "แบรด อเบลสัน" (จากหนังสั่น Yellow Light) และ "โจนาธาน เดล วัล" (จาก The Secret Life of Pets 2) ที่ไม่รู้ว่าการผนึกกำลังในครั้งนี้จะหมายถึงมาช่วยกันพยุงหนังเรื่องนี้ให้สตรองขึ้นหรือไม่ แต่บอกได้เลยว่า...ผู้กำกับยิ่งเยอะก็ยิ่งทำให้หนังรู้สึกวิ่งกันไปคนละแฉกมากยิ่งขึ้นไปด้วย

Minions 2: The Rise of Gru ก็ยังคงมาพร้อมกับสูตรสำเร็จเดิม ๆ แบบภาคที่แล้วเกือบจะเป๊ะ คือหนังกะมาขายความบันเทิงและความน่ารักแบบไม่รู้ประสีประสาของมินเนียมส์ให้เพลิน ๆ ซึ่งแน่นอนว่าตรงจุดนั้นหนังก็สามารถตอบโจทย์ผู้ชมและสร้างสีสันความสนุกได้ดีตลอดทั้งเรื่องนี้ ความใสซื่อสไตล์มินเนียนส์ก็ยังคงมีเสน่ห์อยู่ต่อไป เหล่าตัวจี๊ดดดด! อย่าง บ็อบ, เควิน, สจ๊วต ยังคงแสบสันต์เหมือนเคย เพิ่มเติมในภาคคือ อ็อตโต้ ที่เป็นสมาชิกตัวป่วนขโมยซีนประจำเรื่องนี้

คือก็ต้องยอมรับเลยว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 90 นาทีของหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความบันเทิงที่ชวนขำแบบทำงานได้ดี แต่หากว่ามองถึงแก่นแท้และเนื้อในของหนังเรื่องนี้นั้น กลับพบว่าหนังแทบจะไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นจากเมื่อก่อนสักเท่าไหร่เลย ตอกย้ำความจำเจเข้าไปซ้ำอีกเมื่อภาคนี้ยังเป็นภาคเล่าย้อนไปสมัยที่ กรู ยังอายุแค่ 10-11 ขวบ ตอนที่หัดเป็นวายร้ายตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งประเด็นนี้เราน่าจะเคยได้ยินได้ฟังมาแล้วจากในหนัง Despicable Me หลากหลายภาค...จริงไหม?

ทำให้ Minions 2: The Rise of Gru เป็นการเล่าเรื่องวนอยู่ในอ่าง เนื้อหาอาจจะมีแค่เพียงหยิบมือเดียว แต่ถูกนำมาแผ่ขนาดออกไปด้วยการสร้างสีสันและมุกตลกใส ๆ ของพวกมินเนียนส์ หากมาพิจารณาในองค์ประต่าง ๆ ดูนั้น หนังยังค่อนข้างขาดความใส่ใจในเนื้อหาอยู่ในหลายจุด โดยเฉพาะกลุ่ม Vicious 6 ที่ใส่เข้ามาไม่ต่างกับตัวประกอบในหนังการ์ตูนที่ฉายตอนเช้าวันเสาร์อะไรทำนองนั้นเลย เป็นตัวร้ายที่ไร้ซึ่งน้ำหนักและที่มาที่ไป คือเหมือนพวกตัวเองที่รู้ชะตากรรมจะตายในตอนจบตอนนี้อะไรทำนองนั้น

และการที่มีผู้กำกับมาช่วยทำงานด้วยกันถึง 3 คน เกือบจะทำให้เนื้อหนังทั้งเรื่องไปด้วยกันไม่ได้เสียแล้ว เพราะจะสังเกตได้ว่าโทนหนังเดี๋ยวก็กระโดดไปมาอยู่บางจังหวะ แม้ว่าจะยังเล่าเรื่องได้สนุกและทำให้ผู้ชมคล้อยตามไปได้ แต่เดี๋ยวอยู่ ๆ อยู่กลางทะเลทราย อยู่ ๆ เด้งมาฝึกกังฟูเฟะฟะเพลินใจ ซ้ำร้ายยังได้ทั้ง "มิเชล โหย่ว" หรือ "ทาราจิ พี. เฮนสัน" มาเป็นตัวละครใหม่ แต่หนังกลับไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรสักเท่าไหร่เลย

แต่โดยหนังก็เท่านั้นแหละ ต่อให้หนังจะจำเจและไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ใด ๆ เลย หนังชุดนี้ก็ยังขายได้เพราะความเป็นมินเนียนส์ สุดท้ายมันก็เป็นหนังที่มอบความบันเทิงให้คนดูได้ถึงใจถึงอารมณ์อยู่ดี ถึงมันจะสัมผัสได้ถึงความตันในไอเดียของหนังชุดนี้บ้างแล้วก็ตาม ทั้งที่ยังมีทางอื่นอีกมากมายให้เลือกเดินเกมและเล่าเรื่องไป และนั่นอาจจะเป็นจุดที่พลอยทำให้เสน่ห์ของมินเนียนส์ต้องเสื่อมลงไปด้วยหรือเปล่า หากจะมีภาคใหม่ตามมาอีก...เห็นทีว่าสตูดิโอหนังจะต้องคิดคอนเซ็ปต์ให้ฉีกแนวหนัก ๆ เสียแล้ว


ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : รีวิวหนัง

ติดตามเนื้อเรื่องอื่น ๆ : รีวิวหนังภาพยนตร์ 

อ่านเพิ่มเติม : รีวิวหนังดัง  

Comments
* The email will not be published on the website.
I BUILT MY SITE FOR FREE USING